วันจันทร์ที่ 11 ธันวาคม พ.ศ. 2560

Google Home Max!! Smart Loudspeaker สมาร์ทลำโพงอัจฉริยะ
     สวัสดีครับผู้อ่านทุกท่าน หลังจากวันหยุดยาวๆผ่านไป หลายๆคนคงได้พักผ่อนอย่างเต็มที่กันนะครับ สำหรับวันนี้ผมก็มี ไอเทมใหม่ ที่ไม่ใหม่ อ่านไม่ผิดครับ ใหม่ที่ไม่ใหม่ ในที่นี้คือ ลำโพงครับ แล้วลำโพงที่ว่ามันใหม่ยังไงล่ะเรามาติดตามไปพร้อมๆกันนะครับ

     หลายๆคน ที่ชอบฟังเพลงคงเคยใช้ลำโพงมาหลายๆ ยี่ห้อนะครับ แต่สำหรับลำโพงตัวนี้ คนไทยยังไม่มีโอกาสได้ใช้นะครับ มันก็คือ Google Home Max นั่นเอง หลายๆคนคงเคยได้ยินกันกับคำว่า Smart Phone แต่เจ้านี่ เราจะเรียกมันว่า Smart Loudspeaker หรือ "สมาร์ทลำโพง" นั่นเองครับ


     เจ้า Google Home Max ตัวนี้ เปิดขายแล้วในสหรัฐอเมริกา ราคาเริ่มต้นอยู่ที่ 399 ดอลลาร์สหรัฐ หรือประมาณ 13015.35บาท (ราคาไม่น่ารักเลยนะเนี่ย) แต่ความพิเศษของมัน คือ มันมาพร้อมกับระบบ Google Assistant หรือ ผู้ช่วย ที่ในเครื่องโทรศัพท์ สมาร์ทโฟนมี ที่เราเรียกมันว่า Siri นั่นเองครับ ในการมีผู้ช่วยตรงนี้ ทำให้เราสามารถ ใช้คำสั่งกับ มันได้ ไม่ว่าจะเปลี่ยนเพลง ฟังข่าว ตรวจสอบปฏิทิน ค้นหาเว็บไซด์ และอื่นๆ ได้ (แต่ก็มีขีดความสามารถของมันนะครับ)


     นอกจากนี้เจ้าลำโพงอัจฉริยะตัวนี้ สามารถปรับเสียงทุ้มเสียงแหลมด้วยตัวเองได้ตามตำแหน่งที่ตั้งของมันในห้อง เช่น ตั้งข้างกำแพงทำให้เสียงเบสนั้นดังเกินไป เจ้า Max ตัวนี้ จะฟังเพลงที่ปล่อยออกมา และปรับแต่งระดับเสียงเพื่อให้มีความสมดุลและไพเราะนั่นเอง


     รายละเอียด ของ Google Home Max

     - ไมโครโฟนในตัว 6 ตัว สำหรับการควบคุมเสียงทางไกล(ใช้ระบบอัจฉริยะผ่านเสียงเราได้ไกลขึ้น)
     - การให้เสียงลำโพงแบบวูฟเฟอร์ ขนาดความสูง 4.5นิ้ว กว้าง 114 มิลลิเมตร(11.4เซนติเมตรประมาณครึ่งไม้บรรทัด)
     - ลำโพงกำหนดเสียงเอง ขนาด 0.7 นิ้ว
     - อินพุต: USB-Type C และ อุปกรณ์เสริมขนาด 3.5 มม. Bluetooth
     - ผ้าโปร่งใส สองสี สีชอล์กและถ่าน (ที่หุ้มลำโพง)
     - ฐานซิลิโคน

     ซึ่งเจ้า Max ตัวนี้ สามารถซิ้งค์กับระบบลำโพงอื่นๆ ที่รองรับ Chromecast เพื่อสตรีมเพลง ให้สามารถซิงค์ถึงกันได้ (เปิดตัวนึงตัวนึงก็ดัง) และสามารถ ควยคุมระดับเสียงของทั้งหมดได้พร้อมๆกัน

     นี่ก็เป็นข้อมูลคร่าวๆของเจ้า Google Home Max สมาร์ท ลำโพง อัจฉริยะ ถ้าเข้าไทยเมื่อไหร่จะเราอัพเดทให้ได้รู้กันนะครับ

Cr: Cnet
เขียนโดย : Poseidon
Messenger Kids แอพพลิเคชั่นใหม่เพื่อเด็กๆจาก Facebook

      ในวันที่ 4 ธันวาคม ที่ผ่านมาทาง Face book ของสหรัฐอเมริกา ได้เปิดตัว Messenger Kids แอพพลิเคชั่นใหม่ที่จะช่วยให้เด็กๆสามารถแชทและติดต่อสื่อสารกับครอบครัวและเพื่อนๆได้อย่างปลอดภัยยิ่งขึ้น





      หลังจากที่ได้มีการพูดคุยระหว่างผู้ปกครองหลายพันคนรวมถึงสมาคมต่างๆ เช่น  National PTA ผู้เชี่ยวชาญด้านการเลี้ยงดูของสหรัฐฯ ได้มีความเห็นตรงกันว่า ควรมีแอพพลิเคชั่นที่ทำให้เด็กๆสามารถติดต่อสื่อสารกับคนที่รักได้ โดยอยู่ภายใต้การควบคุมของผู้ปกครอง ดังนั้นทางจึงFace book ได้สร้าง Messenger Kids ขึ้น


      Messenger Kids เป็นแอพพลิเคชั่นแบบสแตนด์อโลนที่ใช้งานได้กับแท็บเล็ตหรือสมาร์ทโฟนแต่สามารถควบคุมการใช้งานได้จากผู้ปกครอง โดยในระหว่างทำการวิจัยทาง Face book ก็ได้รับฟังความคิดเห็นต่างๆจากผู้ปกครองที่จะใช้งานจริง เพื่อนำมาพัฒนาควบคู่ไปกับความคิดเห็นของผู้เชี่ยวชาญ




      โดยในช่วงหลายเดือนที่ผ่านมามีหลายครอบครัวได้ทดลองใช้แอพพลิเคชั่นนี้ จึงทำให้เกิดคุณสมบัติสำคัญหลายอย่างขึ้น เช่น การใช้งานที่ง่ายต่อการควบคุมของผู้ปกครอง เป็นต้น

      การใช้ Messenger Kids บัญชีของเด็กๆจะถูกตั้งค่าโดยผู้ปกครอง เช่น การวีดีโอคอล เด็กๆจะสามารถวีดีโอคอลกับคนที่ผู้ปกครองทำการอนุญาตแล้วเท่านั้น  โดย Messenger Kids นั้นเป็นแอพพลิเคชั่นที่เปิดให้ดาวน์โหลดได้ฟรีที่ปลอดโฆษณา และ ข้อมูลของเด็กๆทุกคนก็จะไม่ถูกนำไปใช้ประโยชน์ในเชิงโฆษณาเช่นกัน เพื่อให้สอดคล้องกับCOPPA (กฎหมายความเป็นส่วนตัวและการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลของเด็ก




      นอกจากนนี้ Messenger Kids ยังมีลูกเล่นต่างๆ เพื่อเพิ่มความสนุกสนานให้กับเด็กๆ อาทิ การตกแต่งสติ๊กเกอร์น่ารักๆลงบนภาพก่อนจะส่งให้กับผู้ติดต่อคนอื่นๆได้อีกด้วย





      ปัจจุบันแอพฯนี้เปิดให้โหลดแค่ใน Apple App Store ของสหรัฐอเมริกา แต่ในไม่กี่เดือนข้างหน้าจะมีบริการใน Amazon App Store และGoogle Play Store






เขียนโดย : Wu Yusun
ข้อมูล/ภาพประกอบ : newsroom.fb.com

วิธีแปลงลิงค์ยาวๆให้สั้นลงด้วยบริการของ Google เพื่อป้องกันการสแปม
การแปลงลิงค์ให้สั้นลงสามารถทำได้ แต่ว่าเราจะทำไปเพื่ออะไร การแปลงลิงค์ที่ยาวๆให้สั้นลงนั้นก็เพราะว่าอย่างแรกเลยทำให้ดูไม่รกหรือว่ามันทำให้ไม่ว่าคลิกเข้าไปอยางเช่น หากเราจะโพสขายของหน้าเฟสบุคของเรา เราก็ลงรูปสินค้าปกติแล้วลงลิงค์เว็บไซต์เพื่อให้ลูกค้าเราได้เข้าไปดูหรือว่าหาข้อมูลเพิ่มเติมและอาจจะพบว่ามีลิงค์ที่ยาวๆเกินไปเราก็สามารถทำให้สั้นลงเพื่อสะดวกต่อการคลิก และถัดไปนั้นก็คือการทำให้ลิงค์ของคุณไม่เป็นการสแปมเพราะว่าลิงค์เว็บที่คุณโพสบ่อยๆทุกๆวันอาจทำให้ Face Book นั้นจะมองว่าคุณกำลังทำการสแปมและก็บล๊อกเว็บไซต์คุณซึ่งการแปลงลิ้งนั้นก็เป็นการช่วยได้อีกช่องทางแต่อย่าโพสมากเกินไปเพราะก็สามารถเป็นสแปมได้ 

เรามาดูวิธีการแปลงลิงค์กันก่อนเลยดีกว่าให้เราเข้าไปที่ Goo.gl

จากนั้นคุณก็ล๊อกอินบัญชี Google ให้เรียบร้อย ( G-mail ของคุณ) แล้ววางลิ้งยาวๆที่ช่องได้เลย

จากนั้นก็กดที่ Shorten URL

แล้วคุณก็จะได้ลิ้งใหม่สามารถนำไปโพสได้เลยครับ

วันอาทิตย์ที่ 10 ธันวาคม พ.ศ. 2560

วิธีถอดแฟลชไดรฟ์อย่างถูกต้องและปลอดภัย
แฟลชไดรฟ์หรือว่า USB อื่นๆไม่ว่ารูปแบบไหนเราก็ควรทำการถอดให้ถูกต้องด้วยนะครับ ซึ่งการเสียบข้อมูลจาก USB นั้นเป็นการเชื่อมต่อข้อมูลกันกับคอมพิวเตอร์ การทำงานโดยใช้วิธีการที่เรียกว่า Write Caching ในการเขียนไฟล์ต่างๆไปยัง Drive ต่างๆของ Write Caching หรือพูดง่ายๆก็คือการสะสม หรือว่า Cache โดยที่เป็นคำสั่งร้องขอในการเขียนไฟล์ไปยัง drive ต่างๆ ไว้จำนวนหนึ่งก่อนนั้นเอง อย่างเช่นจะทำการสั่งให้ copy file เอาไว้แต่ยังไม่ทำทันทีโดยรอคำสั่งจากเราและเมื่อเราสั่งก๊อปไฟล์อะไรจะทำทีเดียวพร้อมกัน เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการเชื่อมต่อและเขียนไฟล์ไปยัง drive นั้นๆนั้นเอง ก็ถึงอย่างไรก็ควรทำให้ถูกวิธีไว้ก่อนนะเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพแลพการทำงานที่สมบูรณ์ของแฟลชไดรฟ์

   

วันเสาร์ที่ 9 ธันวาคม พ.ศ. 2560

อัพเดทโทนสีมาแรงในปี2018
     ใกล้ช่วงสิ้นปีแบบนี้หลายๆคนคงกำลังมองหาเทรนเสื้อผ้าสวยๆเพื่อจะนำมาใส่ต้อนรับปีใหม่ที่จะถึงกันอยู่ใช่มั้ยคะ ดังนั้น วันนี้ทางเราจึงจะมาอัพเดทเทรนสีสวยๆจากแฟชั่นวีคที่ผ่านมากับโทนสีที่กำลังจะมาในปี 2018 นี้ให้กับทุกคนได้ทราบกัน




     โดยทางเว็บไซต์ pantone กูรูด้านสีได้ออกมาให้ข้อมูลเรื่องสีจากแฟชั่นวีคที่ผ่านมา ว่าในปีหน้าโทนสีที่มาแรงจะแบ่งได้ 3 โทน

     โทนแรกจะเน้นไปทางสีสว่างแต่สบายตา เพื่อทำให้เกิดความรู้สึกสนุกสนาน และ สดใสเหมือนวัยรุ่นอยู่ตลอดเวลา เช่น สีม่วงลาเวนเดอร์ สีชมพูพีช สีเหลืองอ่อน สีฟ้าอ่อน สีเขียวมิ้น เป็นต้น








     โทนต่อมาจะเป็นสีเรียบๆ โดยสีโทนนี้จะทำให้ลุคของคุณดูโตเป็นผู้ใหญ่ และ สุภาพเรียบร้อย อาทิ สีนู้ด สีเทา สีกากี สีน้ำตาล สีน้ำเงินเข้ม











     และโทนสุดท้ายจะเป็นโทนสีที่แหวกแนวออกมาจากสองโทนแรก เพราะ สีโทนนี้คือสีที่ร้อนแรงและฉูดฉาดเหมาะกับสาวลุคเปรี้ยวจี๊ด เช่น สีแดง สีน้ำตาลอมแดง สีส้ม สีเหลืองมะนาว








     นอกจากนนี้ทาง pantone ยังได้ประกาศสีแห่งปีออกมาอีกด้วย ซึ่งสีนั้นก็ คือ  ‘Ultra Violet’ หรือ PANTONE 18-3838 นั่นเอง





     เป็นยังไงกันบ้างคะ เชื่อว่าสาวๆหนุ่มๆหลายๆคนคงจะมีไอเดียในการแต่งตัวกันบ้างแล้ว ยังไงก็อย่าลืมเอาสีสวยๆพวกนี้ไปมิกซ์แอนแมทกันด้วยนะคะ จะได้ไม่ตกเทรนตกกระแสกัน สำหรับวันนี้ต้องขอตัวลาไปก่อน พบกับการอัพเดทเทรนแฟชั่นใหม่ๆกันในบทความหน้าค่ะ

เขียนโดย : Wu Yusun
เครดิต : www.pantone.com
ภาพ : www.thefashionspot.com /  www.elleuk.com
สถานีต่อไป iPhone 2018 !! การเปลี่ยนแปลงอีกครั้ง ของ iPhone ?
     สวัสดีครับ ท่านผู้อ่านทุกท่าน วันนี้มีข่าวดีๆมาให้วิเคาระห์กันครับ ที่ผ่านมาอุปกรณ์มือถือ ถือว่าเป็นสิ่งที่ทุกคน ต้องมีติดตัวไว้ตลอด เราใช้งานมันหลายอย่าง ไม่ว่าจะเป็นการสื่อสาร เล่นเกมส์ฟังเพลง ฯลฯ อีกหลายๆอย่าง แต่วันนี้ เราจะมานำเสนอข่าวของ iPhone 2018 ซึ่งไม่ใช่ชื่อของมันนะครับ แต่จะมาบอกเล่ารายละเอียดที่เราหามา ให้ได้อ่านกันครับ ไปเริ่มกันเลยดีกว่า


     ก่อนหน้านี้ ทาง Apple ได้ปล่อย อุปกรณ์ใหม่ล่าสุดไป นั่นคือ iPhone X ที่ ผลตอบรับในบ้านเราดีมาก และที่อื่นๆก็เช่นกัน เพราะมี ลูกเล่นใหม่ที่ทุกคนสนใจมัน นั่นก็คือ การสแกนใบหน้า ซึ่ง ในส่วนนี้นี่แหละทำให้มันมีจุดขายของตัวมันเอง

     แต่ใน iPhone 2018 นี้ (ไม่ใช่ชื่อนะครับ) อุปกรณ์รูปทรงทุกอย่างจะไม่เปลี่ยนไป แต่สิ่งที่น่าสนใจและเป็นประเด็นคือ บริษัท อาจจะกลับไปใช้ รูปทรงและรูปร่าง เหมือน iPhone 7 มากกว่าที่จะทำให้คล้าย iPhone X หรือ iPhone 8 (ข่าวส่วนนี้มีนักวิเคาระห์ มาอีกทีนะครับ แต่ไม่ใช่ข่าวของทาง Apple เอง)


     Apple อาจจะปล่อย New iPhone ใหม่สามรุ่นในปีหน้า ได้แก่ iPhone LCD 6.1 นิ้ว รุ่น OLED 5.8นิ้ว และOLD ขนาด 6.3 นิ้ว ซึ่งรูปทรงที่เป็นไปได้ของทั้งสามรุ่น จะมีการกลับไปใช้โลหะ แทนการใช้กระจกนั่นเอง
(เหตุผลคงเพราะว่าค่าเปลี่ยนมันแพงหรือไม่อันนี้ต้องวิเคาระห์กันอีกที)

     ซึ่งที่เราบอกว่า เหมือน iPhone 7 นั่นก็เพราะ iPhone X จะมีขนาดที่เล็ก จนเกือบเท่า iPhone 5 บางคนชอบที่เครื่องมันใหญ่มากกว่า แต่การที่ iPhone X ออกมาเครื่องเล็ก มันทำให้ดูโดดเด่นน้อยลงไปมาก ถ้าไม่หยิบขึ้นมาใช้จะไม่รู้เลยว่านั่นคือ iPhone X ที่ผ่านๆ นับตั้งแต่ iPhone 6sPlus ขึ้นมา Apple เน้นให้อุปกรณ์ หน้าจอ มีขนาดใหญ่ และรูปทรงรูปร่าง โดดเด่น (เหลือจอตรงกลางมีปุ่ม Home กลมๆ ข้างล่างจอ) ทำให้มองแล้วรู้เลยว่านั่นคือ iPhone แต่ เทียบกันกับ iPhone X เครื่องเล็ก ปุ่มก็หายไป ถ้าไม่หยิบใช้ เอามาสแกนใบหน้า เราคงไม่รู้เลยใช่ไหมหละว่ามันคือ iPhone X ถ้าวางเครื่องไว้เฉยๆ

     ซึ่งในการเปลี่ยนแปลงให้ด้านหลังของตัวเครื่อง iPhone X และ iPhone 8 นั้น ก็เพื่อสนับสนุนลูกเล่นใหม่อย่าง ระบบชาร์จไร้สาย แต่ ในกรณี ถ้าหาก Apple กลับไปใช้เป็นโลหะเหมือนเดิมนั้น จะทำให้การชาร์จแบบไร้สาย มีปัญหาก็เป็นไปได้

     ในทางกลับกันถ้าหากใช้ โลหะเป็นฝาหลัง ข้อดีที่เห็นได้ชัดคือ ความทนทาน ที่ลดลงมากเมื่อมาใช้กระจก มันทั้งแตกง่ายและค่าเปลี่ยนก็แพงแสนแพง

    คนส่วนมาก ซื้อ iPhone เพราะ อะไร เพราะระบบชาร์จไร้สายเหรอ ? หรือเพราะมันเป็น iPhone ?
 แต่ถ้าหากมัน เป็นโลหะ ราคามันจะต้องถูกลง แต่ทุกอย่างเหมือน iPhone ที่เราเคยใช้ หละ? เหตุผลข้อไหนที่ คุณ ซื้อ iPhone ช่วยแชร์กับเราด้วยนะ

Cr: cnet
ผู้เขียน : Poseidon

     
Notebook ที่น่าสนใจ ราคาที่ใครๆก็เอื้อมถึง (ภาค1)
     สวัสดีครับ ช่วงนี้ก็เข้าหน้าหนาวแล้วนะครับ นอกจากหน้าหนาวแล้วยังมีอีกกิจกรรมนึง ที่เป็นกิจกรรมที่มีกันทุกๆปีนั่นคือ คริสมาสนั่นเอง (แล้วมันเกี่ยวกับหัวข้อยังไงหละเนี่ย555) ใจเย็นๆนะครับ ที่เรามาจัดอันดับให้ เผื่อว่า ใครหลายๆคน อาจจะมอง ของขวัญให้คนอื่น หรือซื้อให้ตัวเองอยู่ เผื่อว่าจะช่วยเป็นสื่อให้ตัดสินใจกันได้ อ่านกันมานาน เรามาเข้าเนื้อหากันดีกว่านะครับผม

1.Dell Vostro 7570-W5685 ราคาเริ่มต้น 34,990 บาท

สเปคเบื้องต้น

     - Intel Core i7-7700HQ (2.80 - 3.80 GHz)
     - NVIDIA GeForce GTX 1050Ti (4GB GDDR5)
     - Ram 8GB DDR4
     - 1 TB 5400 RPM + 128 GB SSD
     - ขนาดจอ 15.6 นิ้ว การแสดงภาพแบบ Full HD ขนาดแสดงผล 1920x1080
     - ระบบปฏิบัติการที่ มีให้ Ubuntu

     บางคนคงอยาก จะทราบกันใช่ไหมครับ ว่าทำไมต้องเป็นตัวนี้ เราจะมาเจาะลึกกันนะครับ
อย่างแรกเลย ที่คุ้มค่าที่สุด นั่นคือ สเปคของ Cpu เนื่องจากปัจจุบัน โน็ตบุค รองรับ Cpu มากสุดที่ Intel Core i7 ซึ่งเจ้า 7570 ตัวนี้ นอกจากจะมี Cpu ที่สูงแล้ว ยังเป็น Cpu ที่ สูงสุดที่ โน็ตบุคปัจจุบันมี(อาจจะมี i9 แล้วนะครับจะลองหาข้อมูลให้ครับผม) นั่นก็คือ Intel Core i7 - 7700 HQ นั่นเอง (ตัวหลัง ถัดจาก Core ถ้าจะให้เปรียบเทียบ ก็เหมือน กับ โรงงานที่มี คนงานเยอะกว่า มีประสิทธิ์ภาพกว่านั่นเองครับ) ซึ่ง มาพร้อมกับ ความเร็วที่ 2.80 (เข้าใจง่ายๆตรงส่วนนี้คือ คนงานที่มี สามารถ ทำงานได้เร็วแค่ไหนนั่นเองครับ) ซึ่ง สูงสุดของความเร็ว ที่สามารถเร่งได้ คือ 3.80 GHz

     นอกจากนั้น การ์ดจอ แสดงผลมาพร้อมกับ NVIDIA GeForce GTX (ถ้าเป็นคอมจะมีแค่GTเฉยๆครับ) 1050Ti 4GB GDDR5 ถ้าถามว่า การ์ดจอใหม่สุดไหม คงจะตอบได้ว่าไม่ แต่ถึงแม้จะไม่ใหม่สุด(ตอนนี้ถ้าไม่ผิดพลาดประการใด รุ่น 1080 Ti น่าจะสูงสุดครับ) แต่รุ่นนี้ก็ออกมาได้ไม่นาน แต่มีหน่วยประมวลผล การ์ดฟิค ที่สูงพอสมควร ซึ่งอยู่ที่ 4GB (สูงสุดของการ์ดจอ น่าจะอยู่ที่ 8GB นะครับถ้าผิดพลาดต้องขออภัยด้วยครับผม) เพียงแค่ เท่านี้ ก็ทำให้เราเล่นเกมส์ หรือทำงานการ์ฟฟิคสูงๆได้สบายๆแน่นอนครับ 

     ส่วนเรื่องของ แรม มาพร้อมกับแรม 8GB ซึ่ง เราสามารถเพิ่มได้สูงสุด 16GB (อาจจะมากถึง 32GBเลยทีเดียว) แต่กับแค่แรม 8GB แค่นี้ก็เพียงพอต่อการเล่นเกมส์แรงๆ ได้แล้วครับ(เพราะชดเชยกับ CPUที่แรงอยู่แล้วครับ CPUเป็นหน่วยประมวลผลหลักจะประมวลผลก่อนอันดับแรกอยู่แล้วครับ เหมือนเป็นหัวหน้าใหญ่ ให้ลูกน้องช่วยนั่นเอง) แต่อาจจะมีหน่วงๆบ้าง หากใช้เล่นเกมส์ต่อเนื่องนานๆ แต่ทิ้งไว้สักพักก็หายครับ(เครื่องเปิดนานๆเป็นทุกเครื่องครับ มันเบลอ 555) 

     อีกเรื่องที่แตกต่างจากรุ่นอื่นๆคือ ฮาร์ดดิสเก็บข้อมูล ที่มาพร้อมกับ HDD 1 TB และ ฮาร์ดดิสรุ่นใหม่อย่าง M. SSD 128 GB (ประมวลผลได้เร็วมากๆ) ซึ่งทำให้เราเลือกใช้งานได้ สะดวกว่าจะเอาส่วนไหนเป็นวินโดว์ หรือส่วนไหนเก็บข้อมูลแยกกันไป(แนะนำ ใช้ SSDทำวินโดว์ จะทำให้เครื่องเรา ลื่นไหลในการเปิดเครื่องครั้งแรก หรือถ่ายโอนข้อมูล อย่างแน่นอนครับ)

     ขนาดหน้าจอ เป็น แบบ จอด้าน (ดำๆ ทึบแสดง เหมือนจอทีวีครับเผื่อใครไม่ทราบเนอะ มันจะมี แบบจอแก้วด้วย พวกนี้ส่วนมากเป็นจอสัมผัสได้) ขนาดจอ 15.6นิ้ว (สูงสุดตอนนี้นะครับ ถ้านับกันแค่โน็ตบุคแต่ถ้าจอต่อพ่วงยังไงก็มีมากกว่านี้ครับ)

     ระบบปฏิบัติการ จะมาพร้อมกับ linux Ubuntu เราสามารถไป เปลี่ยนระบบได้ครับ (รองรับ Windows 10ครับ)


2. MSI GL62M 7REX ราคาเริ่มต้น 30,990 บาท

สเปคเบื้องต้น

     - Intel Core i7-7700HQ (2.80 - 3.80 GHz)
     - NVIDIA GeForce GTX 1050Ti (2GB GDDR5)
     - Ram 8GB DDR4
     - 1 TB 5400 RPM + 128 GB SSD
     - ขนาดจอ 15.6 นิ้วการแสดงภาพแบบ Full HD eDP Vivid Color 94%ขนาดการแสดงผล1920x1080

     
     ส่วนที่แตกต่างกับ Dell ทำให้ตัวนี้ ดูน่าใช้น้อยกว่า นั่นคือ การ์ดจอ ที่ การประมวลผล อยู่ที่ 2GB แต่ก็ไม่ได้แตกต่างกันมาก อาจจะไม่เห็นความแตกต่าง แต่ถ้าได้ใช้จะทราบความแตกต่างจริงๆของมันครับ

    และ ฮาร์ดดิสความจำ มีให้แค่ HDD 1 TB ทำให้เลือกใช้ได้แค่ HDD เท่านั้น แต่ที่ดีขึ้นมา นั่นคือ จอครับ จอของ MSI ตัวนี้ เป็นแบบ eDP Vivid Color ซึ่งจะแสดงสีสันได้ สวยกว่า จอแบบ Full HD แบบธรรมดา ครับ

     ระบบปฏิบัติการ ของเจ้าตัวนี้ มาพร้อมกับ ระบบ ปฏิบัติการ Dos (ไม่ใช้วินโดว์เช่นกันครับเหมือนหน้าต่างดำๆ แบบโปรแกรม CMD ในเครื่องคอมพิวเตอร์ครับ สามารถลงวินโดว์ใหม่ได้เช่นกันครับ)

     เป็นยังไงกันบ้างครับ กับโน๊ตบุคสองตัวนี้ ต้องขออภัยจริงๆนะครับ ที่ลงได้แค่สองรุ่นนี้ (ใส่เนื้อหามากไปขอโทษด้วยครับแต่มันมีประโยชน์แน่นอนครับ) ไว้คราวหน้าจะมาแนะนำให้ได้มากกว่านี้ครับ

ต้องขอขอบคุณรูปภาพและข้อมูลจาก : Notebookspec ด้วยนะครับ

สำหรับวันนี้ถ้ามีข้อผิดพลาดประการณ์ใด ขออภัยมาด้วยนะครับขอบคุณครับ

ผู้เขียน : Poseidon